Scar Formation : Asian vs Western
ทำไมคนเอเชียจึงมีแนวโน้มเกิดแผลเป็นนูนและรอยคล้ำได้ง่ายกว่า?
“เชื้อชาติและลักษณะผิว” มีผลต่อการฟื้นตัวของแผล เช่น ผิวของคนเอเชียและยุโรป
โครงสร้างผิวไม่เหมือนกัน
โครงสร้างผิวคนเอเชียมีความหนาและมีเม็ดสีมากกว่า จึงเสี่ยงรอยคล้ำหลังแผลเป็น (PIH), แผลเป็นนูน หรือ Keloid ได้มากกว่า ชาวยุโรปถึง 3 เท่า โดยเฉพาะในบริเวณที่มีแรงตึงสูง เคลื่อนไหวบ่อย เช่น หน้าอก ไหล่ หลัง ข้อศอก เข่า ฯลฯ
ในขณะที่คนยุโรปที่มีผิวบาง มักเจอปัญหาแผลยุบหรือบุ๋มได้มากกว่า ชาวเอเชีย
ทางออกสำหรับผิวเอเชีย : ดูแลแผลเป็นอย่างใส่ใจตั้งแต่ต้น
ผิวคนเอเชีย เน้นการดูแลแผลเป็นเพื่อ ลดการอักเสบ ป้องกันแผลนูน ลดการสร้างเม็ดสี
แนะนำผลิตภัณฑ์ที่มี Medical Grade Silicone ที่ช่วยปกป้องผิว ให้ความชุ่มชื้นผิว ลดการระคายเคือง ลดโอกาสเกิดแผลนูน เมื่อผสาน Peptide ที่ช่วยกระตุ้นการซ่อมแซมเซลล์ผิว ให้ผิวเรียบเนียน และสีผิวสม่ำเสมอ
สรุป
คนเอเชียมีแนวโน้มเกิดแผลเป็นนูนและรอยคล้ำมากกว่า การดูแลแผลตั้งแต่ระยะแรกสำคัญมาก
ReDelli Scar – พัฒนาเพื่อผิวเอเชียโดยเฉพาะ เห็นผลจริง ปลอดภัย ใช้ได้ทุกวัน
ความแตกต่างของแผลเป็นในผิวคนเอเชียและยุโรป
ทำไมคนเอเชียจึงมีโอกาสเกิดแผลเป็นนูนและรอยคล้ำมากกว่า?
เมื่อพูดถึงรอยแผลเป็น หลายคนอาจไม่รู้ว่า “เชื้อชาติและลักษณะผิว” มีบทบาทสำคัญในการฟื้นตัวของแผล — โดยเฉพาะระหว่างผิวของคนเอเชียและคนยุโรป ซึ่งมีความแตกต่างอย่างชัดเจน
โครงสร้างผิวไม่เหมือนกัน
คนเอเชียมักมีชั้นหนังกำพร้าบาง และมีปริมาณเม็ดสี (melanin) มากกว่าคนยุโรป ส่งผลให้เกิดรอยคล้ำหลังแผล (PIH – Post-Inflammatory Hyperpigmentation) ได้ง่ายกว่า รวมถึงมีแนวโน้มเกิดแผลเป็นนูน (Hypertrophic scar หรือ Keloid) สูง โดยเฉพาะในบริเวณที่มีแรงตึง เช่น หน้าอก ไหล่ หรือกราม
ในขณะที่คนยุโรป ซึ่งมักมีผิวหนากว่า กลับเผชิญกับปัญหาแผลยุบหรือบุ๋ม เช่น รอยหลุมสิว มากกว่าแผลนูน และมักทิ้งรอยแดงมากกว่ารอยคล้ำหลังแผล
สรุปสั้น ๆ: • คนเอเชีย: เสี่ยงต่อแผลนูนและรอยคล้ำหลังแผล
- คนยุโรป: มักเกิดรอยบุ๋มหรือรอยแดงมากกว่า
- แนวทางดูแลผิวเอเชีย ควรเน้นลดการอักเสบ + ลดรอยคล้ำ + ป้องกันแผลนูนด้วยซิลิโคนและเปปไทด์
เพราะผิวของแต่ละคนไม่เหมือนกัน การดูแลแผลเป็นก็ไม่ควรเหมือนกัน การเลือกผลิตภัณฑ์ที่เข้าใจผิวคนเอเชีย โดยเฉพาะคนไทยอย่างแท้จริง จะทำให้การฟื้นฟูแผลเป็นเห็นผลได้มากยิ่งขึ้น