เรตินอยด์ (Retinoids) หรือสารอนุพันธ์วิตามินเอ
คุณอาจเคยได้ยินชื่อ Retinoic Acid หรือ Retin-A, Tretinoin – ที่ถูกใช้ในวงการแพทย์ผิวหนังมานาน แต่รู้ไหมว่า มีอีกหนึ่งตัวเลือกที่อ่อนโยนต่อผิวมากกว่า และยังคงประสิทธิภาพไว้ได้ดี นั่นก็คือ Retinol
ทั้ง Retinoic Acid – Retinol ต่างเป็นหนึ่งใน Retinoid หรืออนุพันธ์วิตามินเอ ช่วยผลัดเซลล์ผิว ลดสิว และลดเลือนริ้วรอยได้อย่างมีประสิทธิภาพ ออกฤทธิ์ลึกถึงระดับเซลล์ผิว
เรตินอยด์ทำงานอย่างไร?
1.จับกับตัวรับเรตินอยด์ (Retinoid Receptors) ที่อยู่ในเซลล์ผิวหนัง
2.กระตุ้นการแสดงออกของยีน (Gene Expression) ที่เกี่ยวข้องกับการสร้างคอลลาเจน การผลัดเซลล์ผิว และการควบคุมความมัน
ต้องเปลี่ยนร่างก่อนออกฤทธิ์
เรตินอยด์บางชนิดไม่สามารถออกฤทธิ์ได้ทันที ต้องถูกเอนไซม์บนผิวเปลี่ยนเป็น “Retinoic Acid” (กรดเรติโนอิก) ซึ่งเป็น รูปแบบที่ออกฤทธิ์จริง กับเซลล์ผิว โดยลำดับการเปลี่ยนเป็นดังนี้:
ชื่อสาร
|
ต้องแปลงกี่ขั้น
|
ความแรง
|
ความระคายเคือง
|
วางขายทั่วไป?
|
Retinyl ester (เช่น Retinyl palmitate)
|
3 ขั้น
|
อ่อนที่สุด
|
แทบไม่ระคาย
|
✅
|
Retinol
|
2 ขั้น
|
อ่อน-กลาง
|
น้อย-ปานกลาง
|
✅
|
Retinaldehyde
|
1 ขั้น
|
กลาง-แรง
|
ปานกลาง
|
✅ (บางแบรนด์)
|
Retinoic acid (เช่น Tretinoin)
|
0 ขั้น
|
แรงสุด
|
ระคายง่าย
|
❌ (ต้องใช้ใบสั่งแพทย์)
|
หลักสำคัญที่ควรรู้
-
ยิ่งเปลี่ยนหลายขั้น → ยิ่งอ่อนลง → ออกฤทธิ์ช้าลง → ระคายเคืองน้อยลง
-
แต่ก็จะ เห็นผลช้ากว่า และต้องใช้ต่อเนื่องอย่างน้อย 8–12 สัปดาห์ขึ้นไปจึงจะเริ่มเห็นผลชัด